Always with Me

ทำธุรกิจอะไรดี 5

21/8/2559

วันนี้มาดูอัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียกันเถอะ เพราะอย่างที่อ่านกันมาในบทความก่อนๆจะพบว่าประเทศนี้มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเฉลี่ยที่ประมาณ 5% ต่อปี


( ข้อมูลจาก http://www.adb.org/countries/indonesia/economy)

     จากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของแถบประเทศ AEC จะพบว่าอินโดนีเซีย (4.5%)เป็นรองแค่พม่า (9.5%) แค่นั้นเองนะเนี้ย แสดงว่าผมค่อนข้างจะคิดถูกแล้วหละว่าประเทศนี้น่าสนใจ เงินเฟ้อมันหมายถึงมีเม็ดเงินไหลเข้าไง ไปเจาะแยกรายปีกันเลยดีกว่าว่าอินโดนีเซียนั้นมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่น่าสนใจแค่ไหน


     มูลล่าสุดพบว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่ปีเดียวลดจาก 7% เหลือ 3% ได้. . .พระเจ้าเค้าใช้มาตารการอะไรกันนี่ แต่ก็สอดคล้องกับการเติบโตในภาพรวมของเศรษฐกิจดี เพราะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจาก 6% เหลือเฉลี่ยที่ 5%

( ข้อมูลจาก http://www.adb.org/countries/indonesia/economy)


     แม้จะชะลอตัวลงแต่จัดว่าลงน้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ อย่างที่ท่านๆทราบกันดีว่าเงินเฟ้อเกิดจากอะไร เงินเฟ้อเกิดจากการมีเม็ดเงินในตลาดมากเกินไปนั้นทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเม็ดเงินส่วนใหญ่ชอบมาจากการกู้ยืม ดังนั้นเมื่อกู้ยืมก็ต้องใช้หนี้คืนถูกมั๊ย? จึงไม่แปลกเลยพอถึงช่วงเวลาแห่งการใช้หนี้คืนเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เงินเฟ้อลดลงอย่างน่าตกใจ ผมว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะนักลงทุนย้ายเงินออกนอกระบบไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น เช่น ช่วงก่อนที่เล่นกันก็มี น้ำมัน กับ ทองคำ คงย้ายเงินไปเก็บไว้ใน 2 ตัวนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงกันส่วนหนึ่ง และพึ่งเกิดไปสดๆร้อนๆก็คือ Brexis ทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนยวบลงมหาศาล นักลงทุนแห่เข้าไปซื้อเก็บกันไว้เพราะมันถูกลงมาก แต่พี่ต้านแห่ง Mudley Group ได้ให้ความเห็นที่ขาดหายว่า "มั่นใจแล้วเหรอว่ามันถูกจริงๆ?" ผมคงยังจะไม่เจาะลงไปถึงขั้นบอกว่าสินค้าตัวไหนถูกไม่ถูกอะนะเพราะความรู้ผมตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น หากมั่นใจว่ามันถูกผมว่าก็เก็บเถอะ เดี๋ยวมันแข็งขึ้นแล้วจะเสียโอกาส แต่ย่อมมีความเสี่ยงเช่นกันเพราะถ้ามันอ่อนหนักกว่าเดิมก็คงแย่. . .


     เป็นอย่างที่คิดไว้เลย 555 คุณลองดูดอกเบี้ยซิช่วง 2014 - 2015 เงินเฟ้อมหาศาล มันจะอะไรซะอีกหละให้ผลตอบแทนซะสูงขนาดนี้ เกือบๆ 8% กันเลยทีเดียว ปัจจุบัน (ณ วันที่เขียน) อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.25% . . . ก็นะตามหลักของเศรษฐศาสตร์แล้ว เมื่อเกิดเงินเฟ้อก็ลดอัตราดอกเบี้ยซะ พอเงินกลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือเกิดเงินฝืดก็ขึ้นดอกอีก ทำสับไปสับมา ขึ้นๆลงๆ แต่ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้ผลตลอดหรอกนะไอ้การปรับขึ้น - ปรับลดดอกเบี้ย มันมีอะไรที่มากกว่านั้นหากท่านที่อ่านมาตั้งแต่บทความแรกและเข้าตามไปอ่านในลิงค์ของ Ray Dalio แล้วคงเข้าใจที่ผมพูด (คลิกที่นี่) ถ้าเช่นนั้นแล้วเรามาสรุปกันเถอะว่ามันน่าสนใจจริงๆรึเปล่า
     ตามความคิดของผมแล้ว ผมพยายมผูกโยงปัจจัยสำคัญต่างๆให้สามารถประกอบทุกส่วนเข้ากันได้แล้วมาไล่เรียงตั้งแต่แรกกันใหม่เลยเพราะผมว่าความคิดผมมันดูกระจัดกระจายมาก เราจึงควรวางแผนใหม่เพื่อไล่มองภาพให้ออก ดังนี้

1. ผมมองว่าเม็ดเงินเป็นตัวขับเคลือนเศรษฐกิจ หากมีเม็ดเงินแล้วทำธุรกิจอะไรก็ง่ายและสามารถเติบโตได้ไว้

2. ผมจึงหาว่าตอนนี้เม็ดเงินอยู่ที่ไหน โดยคิดว่า หนี้สิน ,รายได้เฉลี่ยต่อหัว และจำนวนประชากร มีความสำคัญมากดังวิเคราะห์ไปแล้วในบทความ "ทำธุรกิจอะไรดี 2"

3. พอได้ประเทศที่น่าสนใจเราก็มาดูความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจกันโดยดูจากหลายๆปัจจัยคือ 
เงินเฟ้อ ,อัตราดอกเบี้ย และ การเติบโตทางเศรษฐกิจ

4. พอได้ภาพรวมแล้วค่อยเจาะลึกลงไปว่าภาคส่วนไหลมีเม็ดเงินมากที่สุด เช่น อุตสาหกรรม ,การท่องเที่ยว หรือ การค้าระหว่าประเทศ เป็นต้น

5. พอได้ภาคส่วนที่น่าสนใจเราค่อยเจาะลึกลงไปอีก เช่นของผมมองว่า อุตสาหกรรมอาหารนั้นน่าสนใจเนื่องด้วย
- ผมเรียนมาสายนี้ ทำให้ผมค่อนข้างจะมีความถนัดและความรู้มาก
- มนุษย์ต้องกินอาหารไม่ว่ายากดีมีจน ประกอบกับจำนวนประชากรที่มากถึง 255 ล้านคน
- อาจจะเหมาะแก่การต่อยอดของผม (อันนี้ขอปิดไว้ก่อนว่าอยากต่อยอดเป็นอะไร)
- ไม่เกินตัวคือ ไม่เกินกำลังกาย ไม่เกินกำลังทรัพย์

6. การวิเคราะห์ทั้งหมดมันใหญ่เกินไป ผมแค่ตัวเล็กๆดังนั้นต้องปรับใช้ได้ในชีวิตจริง ผมคิดว่าคนตัวเล็กๆจนๆอย่างผม เปิดธุรกิจเล็กๆ (SME) เกี่ยวกับอาหารก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะก่อนจะขยายไปอินโดนีเซียผมต้องขายในเมืองไทยให้ได้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกค้าในตลาดอินโดนีเซียเห็นว่าเรามีหน้าร้านจริงๆ เราขายแล้วในไทยด้วย ธุรกิจพวกอาหารจึงไม่เกินตัวผม กล่าวคือพอจะมีทุนทรัพย์ในการสานฝันได้

7. ผมเลือกตลาดอาหารฮาลาลเพราะประชาการส่วนใหญ่ในอินโดนีเซียเป็นมุสลิม อีกทั้งคนที่ไม่ได้เป็นมุสลิมก็รับประทานได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วจึงน่าจะเติบโตได้กว้างไกลขึ้นอีกหน่อย

8. หาธุรกิจอาหารที่น่าสนใจ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะผมต้องหางานวิจัยมาอ่านเยอะเลยเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารฮาลาล หรือของใช้ต่างๆ ดังนั้นและไม่ใช่ว่าผมจะหยุดดูแค่อาหารอย่างเดียวหรอกนะ เพราะยังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่ยังน่าสนใจ

9. ถ้าผ่านมาได้ถึงข้อนี้แล้วผมคงมีข้อมูลด้านการเงิน พฤติกรรมผู้บริโภค และข้อมูลด้านการตลาด อยู่พอสมควรเช่น ส่วนแบ่งการตลาดของอาหารประเภทเครื่องดื่ม หรืออะไรก็ตามแต่ดังเขียนไว้ในบทความ "ทำธุรกิจอะไรดี 3" (ไอ้ที่มีมันน้อยนิดนักยังคงต้องหาเพิ่มอีกมาก)

10. สุดท้ายนี้ผมคงได้ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจแล้วหละ ที่เหลือก็แค่ลงมือทำให้ดีใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดสร้างความแตกต่างอะไรก็ว่าไป ซึ่งผมจะไม่พูดในที่นี้เพราะชุดบทความนี้เป็นการวิเคราะห์เฉพาะกลยุธด้านการเงินเพียงเท่านั้น ไม่วิเคราะด้านการตลาดมากนักหรืออาจะวิเคราะในอีกชุดบทความอื่น -..- (ตามอารมณ์)

     ตอนนี้ผมว่าผมมั่นใจแล้วหละว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดที่น่าจับตามองและมีโอกาสเติบโตได้ไกลในอนาคต ดังนั้นที่เหลือคือการหาธุรกิจที่น่าสนใจจริงๆ ตอนนี้ผมพิมพ์บทความไปแล้ว 51 บทความและยังคงปิดไว้ไม่เปิดเป็นสาธารณะ หากวันหนึ่งที่ผมเปิดให้คนอื่นได้อ่านผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทวิเคราะห์ของผมจะถูกต้อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีผู้ที่ได้อ่านแนวความคิดของผม และหากท่านที่สามารถได้อ่านบทความนี้ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเก็บเกี่ยวเอาส่วนดีๆของมันไป หากผิดพลาดยังไงก็บอกกันนะครับ ผมก็แค่เด็กคนหนึ่งอายุ 22 ที่บังอาจจะวิเคราะห์เศรษฐกิจภาพรวม. . . .

     ความรู้สึกหลังเขียนบทวิเคราะห์แรกในชีวิตจบไปนี่คือรู้สึกตื่นเต้นมากครับเพราะไม่เคยเขียนบทความมาก่อนเลย ส่วนใหญ่จะเป็นคนอ่านเพียงอย่างเดียว และนี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจเขียนขึ้นมามาก ผมอยากให้พวกเราช่วยกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งการแบ่งปัน ท่านๆลองฝึกวิเคราะห์ฝึกเขียนอะไรก็ได้ สิ่งที่ท่านสนใจ สิ่งที่ท่านชอบ มันเป็นอารมณ์ที่แปลกดีลองทำดูแล้วคุณจะรู้

การไปถึงจุดหมายช้าหรือเร็วอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญนักก็ได้
เพราะคนจำพวกหนึ่งเชื่อว่าชีวิตคือการไปให้ถึงจุดหมาย
ขณะที่คนอีกจำพวกหนึ่งเชื่อว่าชีวิตคือการดื่มด่ำไปกับการเดินทาง
ไม่มีอย่างไหนถูก - ผิดไปกว่ากัน. . .ขอแค่มันถูกจริตเราก็พอ


When we don’t know where we are going, at least we must know who we are.


Cr.Paulo Coelho



. . . . . . ไว้เจอกันบทความหน้าครับ ^^  . . . . . .


Kingveggie

I'm a Dreamer who try something new. Such as write this Blog. ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น