Always with Me

ตู้เย็นคำสั่งเสียง และการแข่งขันที่ดุเดือด

     

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท Alphabet (บริษัทในเครือของ Google) ได้ออกมาบอกว่าสามารถพัฒนาอุปกรณ์สั่งการด้วยเสียงที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครัวเรือนโดยสามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง เช่น ตู้เย็น ที่สามารถสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ โดย Google มองว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากเพราะต้องเผชิญหน้ากับ Amazon เพราะเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Amazon พึ่งจับมือกับ Microsoft และทั้ง 2 บริษัทต่างก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ ซึ่งจะสามารถนำมาช่วยเหลือกันได้มาก

 

     บริษัท LG ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่นำระบบของ Google เข้าไปไว้ในมือถือก็ได้ประกาศว่าเตรียมจะนำเทคโนโลยีนี้เข้าไปใส่ไว้ในเครื่องซักผ้า และตู้เย็น Google กล่าวว่าอาจจะพัฒนาต่อไปยังเครื่องดูดฝุ่น และอื่นๆ ต่อไปในอนาคตเทคโนโลยีหรือของใช้ประจำวันในครัวเรือนอาจจะสามารถสั่งการได้ด้วยเสียงได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นทั้ง Startup ในจีน หรือแม้แต่บริษัท Samsung ต่างก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ด้วยตัวเองเช่นกัน



วิเคราะห์ข่าว

นับเป็นความน่าตื้นเต้นที่ช่วงชีวิตผมยังมีโอกาสได้เห็น หรือได้ใช้เทคโนโลยีที่สามารถป้อนคำสั่งได้เพียงแค่ใช้เสียงพูด จากข่าวนั้นยังคงทำได้ในเทคโนโลยีบางประเภทแต่ในอนาคตน่าจะสามารถพัฒนาต่อไปยังส่วนอื่นๆได้มากขึ้น และท่านจะเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆบนโลกต่างก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้เพื่อแข่งขันกัน แต่ที่น่ากลัวคือการจับมือกันของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Amazon ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพราะ

1. จะทำให้เกิดนวัตกรรม หรือสอนค้าใหม่ๆเพื่อยกระดับชีวิตผู้บริโภคได้ เช่น

2. ราคาสินค้าจะไม่ถูกโก่งให้แพงเกินไป เพราะมีผู้ค้าหลายรายและการแข่งขันที่สูง นับเป็นประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างเราๆที่อาจจะมีกำลังพอที่จะซื้อมาใช้ได้

3. อาจเกิดการจ้างงานเพิ่มเติมเพราะเพิ่มสายการผลิตใหม่ ตั้งแต่ต้นน้ำนั้นคือการจัดหาทรัพยากรการผลิต พนักงานแปรรูป ไปจนถึงด้านการขนส่ง

4. อาจเกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต เพราะส่วนใหญ่การเปลี่ยนสายการผลิตจะมีต้นทุนที่สูง บริษัทส่วนใหญ่มักจะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด ตัวอย่างเช่นการย้ายฐานการผลิตพวกสินค้าเทคโนโลยี หรือยานยนต์จากไทยไป อินโดนีเซีย และเวียดนาม หรือการเข้ามาซื้อกิจการไก่สดแปรในไทยรูปจากนักลงทุนชาวบราซิล พวกนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากเพราะ

- มีเม็ดเงินจำนวนมหาลไหลเข้าประเทศการผลิต

- การจ้างงานขยายตัวทั้งสายการผลิต

ผมมองว่าโลกอนาคตจำต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดังนั้นทั้งตัวเราภาคครัวเรือน และภาครัฐ ควรที่จะเริ่มพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และจัดสรรพื้นที่ตั้งฐานการผลิต เพื่อรองรับการขยายตัวด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งอนาคตที่กำลังเติบโต เพราะไทยเราก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักลงทุนต่างชาติสนใจอยู่ไม่น้อย

อ้างอิง

Kingveggie

I'm a Dreamer who try something new. Such as write this Blog. ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น