อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเกาหลีได้ยิงทดสอบ
ขีปนาวุธ ข้ามเกาะฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น หลังจากเงียบอยู่นานและไม่มีการแถลงใดๆ
วันนี้นายDonald Trump ประธานาธิบดีของอเมริกาได้ลงทวิสเตอร์ว่า
“การเจรจานั้นไม่ใช่คำตอบสำหรับปัญหาความขัดแย้งเรื่องการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ”
ทั้งนี้การเจราทางการทูตน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ ด้าน UN ต่างประณามการกระทำของเกาหลีเหนือแต่ยังไม่ได้ระบุถึงมาตรการคว่ำบาทครั้งใหม่เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือ
ด้านจีนและรัสเซียย้ำว่าสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรมีส่วนผิดที่ดำเนินการซ้อมรบร่วม
ซึ่งเป็นการยั่วยุเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน
วิเคราะห์ข่าว
ต้องบอกว่านาทีนี้ข่าวเกาหลีเหนือนั้นร้อนแรงมากๆ
เพราะพึ่งยิงขีปนาวุธท้าทายอำนาจโลก อย่างไม่สนใจใคร
ความจริงข่าวนี้ลากยาวมาตั้งแต่ต้นปี
ที่สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรทำการซ้อมรบแสดงแสงยานุภาพเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเกาหลีเหนือ
หลังจากที่นายคิม จองอิล ผู้นำเหาหลีเหนือประกาศว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองและจะดำเนินการพัฒนาต่อไป
โดยไม่สนใจเสียคัดค้านจากนาๆประเทศ ทำให้ตลาดโลกเกิดความปั่นป่วน
และมีข่าวเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามมาอยู่เป็นระยะๆ ผมเห็นว่าข่าวนี้น่าสนใจที่จะนำมาวิเคราะห์เพื่ออย่างน้อยก็จะได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ว่าผลจะออกไปทางใด
หากติดตามตลาดทองคำท่านจะเห็นความผัวผวนสูงมากในวันอังคารที่ผ่านมา
เพราะราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นราว 1% หลังจากมีข่าวเกาหลีเหนือออกมา
เพื่อนของผมซึ่งรู้สึกว่าจะตื่นตัวกับสงครามโลกมากๆ เค้ามักจะพูดคุยกับผมและวิเคราะห์ว่าจะเกิดสงครามในเร็วๆวันนี้ได้ มุมมองส่วนตัวของผมคิดว่าในยุคนี้การจะเกิดสงครามนั้น คงไม่ง่ายเหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ใช้เวลาแค่ข้ามคืน แต่ยุคนี้ผมมั่นใจมากว่าจะต้องมีการวางแผน และเตรียมการอย่างดีก่อนก่อสงคราม เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น ก็คงพูดได้เลยว่าคุณแพ้ไปแล้ว . . .
ดังนั้นผมจะชี้ให้เห็นว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับเรา และเราพอจะสังเกตพฤติกรรมตลาดโลกอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์
1. รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ ยานยนต์เล็กต่างๆ ล้วนต้องใช้น้ำมัน หากจะเกิดสงครามจริงๆต้องมีการกักตุนน้ำมัน ดังนั้นปริมาณความต้องการ (Demand) จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
แต่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังวิ่งอยู่ในระดับที่เรียกว่าต่ำมาก
เมื่อเทียบกับข่าวสงคราม
ดังนั้นผมจะชี้ให้เห็นว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับเรา และเราพอจะสังเกตพฤติกรรมตลาดโลกอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์
1. รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ ยานยนต์เล็กต่างๆ ล้วนต้องใช้น้ำมัน หากจะเกิดสงครามจริงๆต้องมีการกักตุนน้ำมัน ดังนั้นปริมาณความต้องการ (Demand) จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
2. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
นั้นคือการกักตุนอาหาร พวกราคาธัญพืชต่างๆ (สินค้าโภคภัณฑ์) ต้องเพิ่มขึ้นเพราะอุปสงค์มาก
แต่
. . . .
ทั้งราคาน้ำตลาด ธัญพืช ข้าวโพด ถั่วเหลือง ยังถูกลงอย่างต่อเนื่อง
3. ทองคำและโลหะมีค่า
ใช่ครับราคาทองคำจะต้องพุ่งสูงมากๆ
เพราะหากเกิดสงครามจริงเงินที่ถือๆกันอยู่ก็เปรียบดังขยะ มีแค่ทองคำที่นับเป็น Currency
เดียวที่ทั่วโลกยอมรับ และสามารถจ่ายแทนเงินได้
ดังนั้นปริมาณการกักตุนทองคำต้องสูงขึ้นกว่านี้ และราคาทองคำจะกระโดดอย่างมหาศาล
นี่เป็นสิ่งพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้ามเลย
แล้วมันเกี่ยวกับเรายังไง? นั้นก็คือ
ข่าวพวกนี้ออกมาปั่นตลาดไงครับ (Invisible hand) จำได้ว่าช่วง
4 - 5 ปีก่อนที่ข่าวออกมาว่าปริมาณน้ำมันบนโลกเหลือน้อย อยู่ๆราคาน้ำมันก็วิ่งไปถึง
120 เหรียญ/บาร์เรล ไปๆมาๆสกัดน้ำมันจากชั้นหินดินดานได้
พร้อมกับข่าวพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด รถพลังงานไฟฟ้ากำลังจะมา
ตอนนั้นบริษัทเกิดใหม่เพียบ ราคาหุ้นวิ่งกระจาย น้ำมันแพงพวกเราไม่ต้องไปใช้!! เป็นไงหละเดือนที่ผ่านมาบริษัท Energy
earth บริษัทหลักหมื่นล้านของไทยล้มละลาย รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ไหน?
แต่คุณรู้ไหมว่ารอบการแกว่งขอราคาน้ำมันพวกนี้มีคนได้กำไรจากการขายน้ำมันมหาศาลและก็มันจะเป็นหน้าเดิมๆ
(อย่างกับเตรียมบทเล่นหนังกันเลยทีเดียว 555) ไม่ต้องว่าอะไรมากครับจากข่าวนี้ราคาทองวิ่งพลาดเดียวจาก
1290 ไปเกือบแตะ 1330 ก็กำไรบานกันแล้วครับ
ทั้งนี้ข่าวเหล่านี้จัดเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเราจะได้สามารถหาทางรับมือ
ป้องกัน แก้ไข หรือทำกำไรจากมันได้ครับ
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น