ประเทศไทยเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของอาหารจำพวกแมลงที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องถนน
ทำให้หัวหน้าพ่อครัว ใหม่ ธิติวัฒน์ (Mai Thitiwat)
จากร้านอาหาร Insects In The Backyard ใจกลางกรุงเทพมหานคร หันมาสนใจที่จะเริ่มนำแมลงมาปรุงอาหารในรูปแบบต่างๆเพื่อความแปลกใหม่
โดยแมลงที่นำมาปรุงอาหารนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็น
มด, ตั๊กแตน ,หนอนต่างๆ แมงดา หรือจิ้งหรีด ไม่ใช่แค่อาหารคาวนะครับ แต่ยังรวมไปถึงอาหารจำพวกของหวานด้วย
ด้านรสชาติจะเป็นยังไงคงต้องไปลองครับ . . . .
วิเคราะห์ข่าว
ความจริงแล้ว อาหารทางเลือกพวกโปรตีนราคาถูกเริ่มถูกพูดถึงได้สักพักแล้ว
เนื่องด้วยต้นทุนที่ต่ำแต่ได้ผลผลิตสูง และรวดเร็วแถมแมลงยังเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
เพราะมีปริมาณไขมันต่ำ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยโปรตีน ในไทยนั้นมีผู้ริเริ่มดำเนินธุรกิจด้านนี้น้อยมากๆ
ที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักกันก็คือ “แมลงทอดไฮโซ” ที่ผลิกโฉมหน้าของอาหารแมลงทอดไปเลย
จะเห็นได้ว่าทั้งการที่นำมาปรุงอาหารในร้านอาหารหรู
หรือนำมาทำเป็นขนมขบเขี้ยว
ล้วนแต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตัวผลิตภัณฑ์ขึ้นมาหลายเท่า
จากการหาข้อมูลผมไม่พบว่ามีสถิติหรือการสำรวจที่เป็นทางการของมูลค่าการค้าแมลงทั้งภายในประเทศและมูลค่าการส่งออก
แต่พบว่าแมลงเศรษฐกิจที่สำคัญคือ จิ้งหรีด
โดยระบุว่าประเทศไทยมีกำลังการผลิตจิ้งหรีดสูงถึง 7500 ตัน/ปี
คิดเป็นมูลค่าจิ้งหรีดสดและแปรรูปกราว 900 – 1000 ล้านบาท จัดเป็นตลาดที่มีผู้เล่นน้อยรายมาก
และมีโอกาสเติบโตได้อีกไกล ทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ
พบว่าตลาดแมลงในสหรัฐอเมริกาเมื่อ ปี 2558
มีมูลค่าการค้าแมลง 20 ล้านเหรียญ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมเคยอ่านข่าวหนึ่งที่ว่าสหรัฐอเมริกามีโปรตีนบาร์จากแมลงขาย
เป็นที่นิยมสำหรับนักปีนเขา เพราะพกพาสะดวก กินง่าย และให้พลังงานสูง จัดเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ได้เลยนะครับเพราะสร้างสรรค์
แปลกใหม่ แถมมีประโยชน์ต่อมวลมนุษย์มาก
เหตุที่ไทยเราควรให้ความสนใจเพราะ
1. ประเทศไทยมีแมลงกินได้ราว 300 สายพันธุ์
ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเจริญของแมลงมาก (ร้อนชื้น)
2. แมลงนั้นมีคุณค่าทางสารอาหารสูง
สามารถชูโรงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้
3. ต้นทุนต่ำแต่ให้ผลผลิตสูง
4. ราคาถูก เหมาะกับคนทุกระดับชั้น
(โดยเฉพาะชนชั้นล่าง)
5. ตลาดยังสามารถเติบโตไปได้ไกลกว่านี้มาก
6. อาจเกิดสินค้านวัติกรรมใหม่ๆขึ้นมาได้
คล้ายๆกรณี โปรตีนบาร์จากแมลงที่อเมริกา
หากมองลงไปในสภาพสังคมของไทยจะพบว่าทุกหนแห่งตำบลในประเทศไทย ล้วนแล้วแต่มีแมลงพื้นถิ่นทั้งสิ้น นี่ขนาดแค่ตัวเลขที่เก็บข้อมูลกันอย่างน้อยนิดหรือแค่เฉพาะแมลงบางประเภทเท่านั้น ท่านลองคิดดูว่ามูลค่าการค้าเกี่ยวกับแมลงมันมหาศาลแค่ไหน และหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการส่งเสริมการประกอบอาชีพ หรือด้านการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ หากเราหันมาส่งเสริมกันมากขึ้น และสามารถสร้างสรรค์สินค้านวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาได้ผมว่าจะสามารถสร้างงานให้แก่ประชาชน และเพิ่มเม็ดเงินในระบบได้มากเลยทีเดียว
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น