
บทความนี้เป็นการวิเคราะห์ของผมเอง โดยเป็นการคาดการณ์อุปสงค์ของตลาด เพื่อทำกำไร . . . เรื่องมีอยู่ว่า!! เมื่อเริ่มเข้าหน้าฝน
และข่าวน้ำท่วมเริ่มออกทีวีตามสื่อต่างๆ พอดีผมมีโอกาสได้ฟัง
“คุณชูวิทย์
กมลวิศิษฎ์” พูดในรายการ “ตีแสกหน้า” ถึงงบประมาณในการจัดสรรในโครงการเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมว่ามีแผนพัฒนาฉบับแรกออกมาเมื่อ
20 ปีที่แล้ว และมีการอัดเงินลงไปทุกปี ปีละหลายหมื่นล้านบาท
ผมจึงมาบ่นประเด็นนี้กับเพื่อน ( ค่อนข้าง Dark ) จึงมองหาว่าเม็ดเงินเหล่านั้นน่าจะไปช่องทางไหนได้บ้าง?
และแล้วก็มาสะดุดตากับ “กระสอบ”
เพราะระหว่างทางขับรถกลับบ้าน ผมเห็นเทศบาลกำลังนำกระสอบมากองกันสูงเป็นภูเขาเพื่อเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่กำลังจะมาเนื่องจากจะมีพายุเข้า
พอนั่งนึกคิดดีๆก็พบว่าทุกปีที่น้ำท่วม เค้าจะต้องนำกระสอบมากันน้ำท่วม
"เมื่อนั้นผมก็ถึงบางอ้อทันทีครับ"
ดังนั้นแล้วเราจะเห็นได้เลยว่าจะมีปริมาณความต้องการกระสอบที่สูงมากๆ
ไม่ใช่แค่จากรัฐบาลที่จะซื้อไปช่วยเหลือชาวบ้านที่น้ำท่วม
เพราะชาวบ้านบางส่วนก็หาซื้อกระสอบทรายไว้ป้องกันเองเช่นกัน
หน้าที่เราคือต้องหาว่ารัฐบาลจะซื้อกระสอบทรายจากบริษัทไหน? และผมก็ไปสะดุดตากับบริษัท “บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์
และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)” ขอเรียกสั้นๆว่า NEP นะครับ
บริษัท NEP เป็นบริษัทที่ผลิตกระสอบรายแรกในประเทศไทย
และมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ “กระทรวงการคลัง” (และรายชื่อผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆก็นามสกุลคุ้นหูทั้งนั้น)
สรุปง่ายๆคือ ผมมั่นใจว่ารัฐบาลจะต้องซื้อกระสอบจากบริษัทนี้แน่นอน
สุดท้ายเพื่อนผมที่เป็น Trader
จึงเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นของบริษัทนี้
เพราะมองว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้า
ถูกต้องครับเป็นไปตามคาดการณ์
ราคาหุ้นพุ่งกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าซื้อ . .
.
ท้ายที่สุดกราฟราคาหุ้น NEP
นี้อธิบายได้ด้วยความเรียบง่ายที่สุดนั้นคือ อุปสงค์ – อุปทาน
ครับ
อ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น