Always with Me

การท่องเที่ยวไทย



สำหรับเรื่องนี้เราจะมาวิเคราะห์ตัวเลข และมูลค่าของการท่องเที่ยวไทยทั้งในด้านเม็ดเงินและนักท่องเที่ยวครับ พอดีผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจใน Facebook มาว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมีจำนวนก้าวกระโดดอย่างมากโดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีน


จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าประทับใจ โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 ล้านคนในปี 2015 และ 8.7 ล้านคนในปี 2016 จากเดิมในปี 2010 ที่มีเพียง 1.1 ล้านคน ปัจจุบันตัวเลขรวมของนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยอยู่ราว 32 ล้านคน (ปี 2016) และคาดว่าปีนี้ตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 37 ล้านคน

 

เมื่อสืบค้นข้อมูลพบว่านักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมเดินทางเองมากกว่าที่จะมากับบริษัทนำเที่ยว และเมื่อดูช่วงอายุของนักท่องเที่ยว พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น และคนวัยทำงานที่อายุราว   25 – 34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังจ่ายที่สูง ส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากจนเป็นประเทศที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก คิดเป็น 20.6% ของ GDP ประเทศ และกรุงเทพติดอันดับเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดในโลก


จากรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยของ “ศูนย์วิจัยด้านการตลาดและการท่องเที่ยวไทย” (http://tatic.tourismthailand.org/wp-content/uploads/2017/10/Tourism-Situation-2016-2017.pdf อาจต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะอ่านได้) สรุปรวมคือ คนเอเชียมียอดการเข้าเที่ยวมากที่สุดที่ 8.89 ล้านคน ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ราว 6 ล้านคน และทวีปแอฟริกาเป็นกลุ่มที่มาเที่ยวไทยน้อยที่สุดที่ปริมาณ 1.7 แสนคน

     ส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนใหญ่มากจากคือชนชั้นกลางจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีนที่มีอัตราการเติบโตอย่างมหาศาล ในมุมหนึ่งการเติบโตพวกนี้ดึงความมั่งคั่งเข้าประเทศ แต่อีกมุมหนึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบความสุขสงบของประชาชนเช่น กรณีของสเปน บราซิล หรืออิตาลีที่ประชาชนพื้นถิ่นออกมาประท้วง และขับไล่นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากเกินไป โดยเฉพาะเกาะเวนิส เพราะนอกจากจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมหาศาลที่กระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชนแล้วยังทำให้สภาพแวดล้อม ธรรมชาติเสื่อมเสียอีกด้วย

 

ในไทยเองก็เริ่มมีเหตุการณ์มากมายที่มักออกตามสื่อโทรทัศน์ เราจะเริ่มเห็นความไม่พอใจของทั้งคนทั่วไปและร้านค้าต่อนักท่องเที่ยวบางชาติ? และการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ของนายทุนก็เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเพราะบางพื้นที่ชาวบ้านทั่วๆไม่สามารถอยู่อาศัยได้เนื่องจากค่าครองชีพสูง และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงเกินจริง ดังนั้นแล้วการมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขนาดใหญ่เป็นทั้งส่วนดีและส่วนเสีย ผมมองว่ารัฐบาลควรให้ความสนใจและมีนโยบายเพื่อปกป้องการเสียประโยชน์ของคนพื้นถิ่นทั้งทางด้านทรัพย์ยากร หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน และอีกข้อที่ผมตกใจคือ ผมมองว่าตัวเลขเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมันเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป (20.6%) โดยส่วนตัวผมไม่อยากให้สูงมากถึงขนาดนั้นเพราะนั้นหมายความว่าการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ ซึ่งมัน “มีความเสี่ยงมากๆ

มีความเสี่ยงยังไง? ผมมีคำถามว่า คนเที่ยวเยอะเพราะอะไร? 

ตอบ ส่วนหนึ่งเพราะเศรษฐกิจโลกดีขึ้น (ในบางประเทศ) งั้นถ้าผมถามกลับว่าแล้วถ้าเศรษฐกิจโลกแย่หละ? นั้นก็เท่ากับว่ารายได้หลักเราหายไปซิ!! ส่วนจะหายมากหายน้อยแค่ไหนผมไม่อาจทราบได้ แต่กลิ่นมันคล้ายกับกรณีของเวเนซุเอลาที่ผูกความมั่งคั่งของประเทศไว้กับน้ำมันแล้วพอราคาน้ำมันตกประเทศก็ล้มจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการที่ตัวเลขการท่องเที่ยวซึ่งไม่มีอะไรรับประกันเลยว่ามันจะดีได้ตลอดสูงถึงกว่า 20 % ของ GDP แสดงว่ารายได้ด้านอื่นๆมันลดลงหรืออย่างไร? อัตราส่วนด้านท่องเที่ยวถึงเพิ่มขึ้น? 

     โดยส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะกังวลเรื่อง “ความเสี่ยง” เป็นหลัก ดังนั้นพวกปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผมมักจะมองว่ามีความเสี่ยง การที่ตัวเลขการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆและรัฐควรที่จะกำกับดูแลอย่างดีด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่อัตราส่วนเม็ดเงินเมื่อเทียบกับ GDP มันสูงเกินไป ผมแค่อยากจะบอกว่าเราควรหาเม็ดเงินจากทางอื่นที่ให้ความมั่นคงได้มากกว่านี้เพราะอย่างที่บอกว่าอัตราส่วนที่มากขนาดนี้มันแสดงได้ถึงศักยภาพด้านการหาเงินของประเทศชาติได้เลย



อ้างอิง

https://shows.voicetv.co.th/inherview/528154.html

Kingveggie

I'm a Dreamer who try something new. Such as write this Blog. ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น