ไม่รู้ว่าผมไปอยู่ส่วนไหนของโลกมาเพราะ anime ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ผมกลับไม่เคยได้ยินชื่อและไม่เคยคิดจะหาดูมาก่อนเลย ซึ่งสำหรับสาย anime แล้วผมมั่นใจ 100% ว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง

     เรื่องนี้มีทั้งหมดด้วยกัน 3 ภาค ตอนนี้ผมดูไปแล้ว 2 ภาคและคิดว่าจะไม่ดูภาค 3 ต่อเพราะจะไปหาซื้อหนังสือการ์ตูนมาอ่านแทน เพราะอย่างที่ทราบกันคือถ้าเรื่องไหนโดนจริงๆผมจะไล่ซื้อหนังสือการ์ตูนมาอ่านเพราะมันเก็บรายละเอียดได้มากกว่า อีกทั้งภาค 3 มีการเดินเรื่องข้ามตอนหลักไปเยอะมากๆทำให้เราจะงงๆกับตัวละครที่โผล่ออกมาในเรื่อง (เอาจริงก็คงดูทั้ง 3 ภาค และหาการ์ตูนมาอ่านแหละ 555)

 

เรื่องนี้สำหรับผมแล้วจัดให้เป็นอีกหนึ่งในยอด anime ในดวงใจเลย เพราะ

1.ตัวละครหลักของเรื่องโครตเท่ โครตฉลาด เป็นพระเอกแนวที่ทำออกมาได้ไม่เหมือนใครที่ผมเคยดูมาเลย ณ ตอนนี้ผม review anime ไปแล้ว 128 เรื่อง นี่เป็นยอดขั้นต่ำเพราะมีอีกหลายเรื่องที่ผมดูแล้วขี้เกียจเขียน ผมบอกได้เลยว่าพระเอกเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียว รับรองความแปลกที่ไม่เหมือนใคร เจ๋งชนิดที่ว่าคุณจะหลงรักตัวเอกของเรื่องนี้ได้เลยครับ

2. ตัวละครของเรื่องมีเยอะมาก แต่ถูกแบ่งเป็นส่วนของแต่ละคนทำให้มีความหลากหลาย และแนวเรื่องที่ไม่ซ้ำกันเลย ดูเพลินมาก เพลินจนผมยอมอดนอนนั่งดูให้จบในทีเดียวแล้วไปทำงานต่อในตอนเช้า มันสนุกมากๆๆๆๆ พูดมากก็หาว่าโม้ ผมแนะนำให้ไปดูเลยครับ

via GIPHY

3. ความน่ารักของตัวละคร สเน่ห์ที่ดึงดูดของแต่ละคนและการผูกเรื่องสร้างอารมณ์ร่วมที่เยี่ยมที่สุดที่ผมเคยดู . . .ขออธิบายคำว่าเยี่ยมที่สุดว่าในที่นี้หมายถึงใช้เวลาสั้นๆแต่สร้างให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้มหาศาลซึ่งตามหลักการ การที่คนดูจะมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครจะต้องใช้การเดินเรื่องอย่างต่ำครึ่งเรื่อง แต่เรื่องนี้ทำได้ใน 2 ตอน. . .จริงครับ มันสุดๆจริงๆเพราะมันต้องเปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ แต่อารมณ์ร่วมถูกสร้างใหม่ทุกๆครั้งอย่างแนบเนียบจนเราไม่ทันสังเกตุเลย (มีเรื่องอื่นที่ทำลายอารมณ์ได้มากกว่าเรื่องนี้ แต่ถ้าเปรียบเทียบเวลาที่ใช้เรื่องนี้กินขาดครับ)

4. ความตลก เรื่องนี้ฮามากสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา เป็นแนว School life ที่อบอุ่น และไม่น่าเบื่อเลย เดินเรื่องไปเรื่อยๆและมีภาระกิจให้พระเอกต้องทำ ต้องพบเจอประสบการณ์ใหม่ คนใหม่ๆอยู่เสมอๆ รับรองว่าหัวเราะท้องแข็งได้ตลอดทั้งเรื่องแน่ครับ

via GIPHY

5. ข้อนี้เป็นน้ำหนักที่ผมให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่กับเรื่องนี้แต่กับทุกๆเรื่อง นั้นคือ "อารมณ์ร่วม" ดังที่กล่าวไปในข้อ 3 นั้นแหละครับ เรื่องนี้ผมว่าแอบเหงามากครับ มีความเศร้าปนอยู่ในใจพระเอก และได้เห็นพัฒนาการของพระเอกอย่างช้าๆ การดำเนินเรื่องสวยงามไร้ที่ติ มีความอบอุ่นอยู่ในทุกๆตอนแม้ว่าผลสุดท้ายจะต้องจบด้วยการจากลาก็ตาม ใครจะว่ายังไงผมไม่รู้นะครับ แต่เรื่องนี้สำหรับผมเศร้ามาก พระเอกต้องเจ็บซ้ำๆไม่รู้ตั้งกี่รอบเพื่อช่วยเหลือคนอื่นโดยที่เค้าไม่เคยรู้ตัวเลย ที่หลงเหลือไว้คือความทรงจำในหัวใจของพระเอกเพียงฝ่ายเดียว คือ อารมณ์แบบนี้มันเหงาเหี้ยๆ ผมบอกเลยว่าพระเอกในเรื่องทำเป็นเก่ง (ซึ่งก็เก่งจริงแหละ) แต่ข้างในคงกำลังถูกกัดกินอย่างช้าๆ เป็นความอบอุ่น เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม น้ำตา การพบเจอ และการจากลาที่สวยงามมาก

     เกรินมาซะขนาดนี้ผมคงให้คะแนนเป็นอื่นไม่ได้จริงๆนอกจาก 10/10 ครับ The World God Only Knows ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสุดยอด anime ในดวงใจผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้ดูผมแนะนำจากหัวใจว่าควรหาเรื่องนี้มาดูนะครับ เป็นเรื่องที่อบอุ่นหัวใจอย่างไม่น่าเชื่อเลย ^^

เขียนเพิ่มเติม (11/10/2017)

     ว่าจะไม่ดูภาค 3 แต่มันอดไม่ได้ครับ 555 ในส่วนของภาคนี้ผมว่าการเดินเรื่องจะไม่หลากหลายและผ่อนคลายแบบ 2 ภาคแรก เพราะมีภาระกิจสำคัญที่พระเอกจะต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งภาคนี้พระเอกจะงัด skill ทุกอย่างออกมาใช้เพราะมันโครตยาก แถมเดินเรื่องได้เหนือความคาดหมายแบบสุดๆ เรียกได้ว่าฉีกจาก 2 ภาคแรกโดยสิ้นเชิง ทำเอาเราเดเนื้อเรื่องไม่ได้เลย เพราะจากเดิมพระเอกจะเดิมตามแผนได้ราบเรียบ แต่ภาคนี้เรียกได้ว่าแผนสะดุดทุกแผนเลยก็ว่าได้ จึงต้องใช้ความสามารถ การร่วมมือ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สูงมากๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป็นตอนจบที่โครตเศร้า จากเดิมที่ภาคก่อนๆก็สร้างความเหงาปนอบอุ่นหัวใจให้เราแล้ว แต่ภาคนี้ตบท้ายด้วยความเศร้าแบบสุดแสนจะเจ็บปวด