Always with Me

ทำธุรกิจอะไรดี 3

19/8/2559

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศที่น่าลงทุนที่สุด (ในมุมมองของผม) ณ เวลานี้คือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีประชากรคิดเป็นราว 15% ของจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลก ใช่เลยครับ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาพูดถึงตลาด "อาหารฮาลาล"


ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลนั้นแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ

1.ตลาดในกลุ่มประเทศมุสลิม : ประเทศในตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ แอลจีเรีย อิรัก โมร็อกโก ตูนีเซีย บาห์เรน จอร์แดน โอมาน ตุรกี อียิปต์ คูเวต กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย เลบานอน อิหร่าน 
ซาอุดีอารเบีย เยเมน มาเลเซีย ปากีสถาน ซีเรีย โดยมีตลาดใหญ่และส าคัญอยู่ในหลายประเทศ

- อินโดนีเซีย : เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก คิดเป็นร้อยละ 15 ของ ประชากรมุสลิมทั่วโลก สินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากโกโก้ อาหารแช่แข็ง คุกกี้ ลูกกวาด อาหารทานเล่น เนยเทียม น้ ามันประกอบอาหาร และเครื่องดื่ม 

- อิหร่าน: เป็นประเทศที่มีกำลังซื้อเป็นลำดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศมุสลิม เนื่องจาก 98% ของประชากร 69 ล้านคนเป็นชาวมุสลิม โดยสินค้าฮาลาลที่เป็นที่นิยมในอิหร่าน คือ อาหารแช่แข็ง เนย เทียม คุกกี้และลูกกวาด เนยเทียมและเนยขาว และเครื่องดื่ม

- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์: 90 % ของประชากรจำนวน 4.6 ล้านคน เป็นชาวมุสลิม สินค้า ฮาลาลที่ตลาดต้องการ ได้แก่ อาหารทานเล่น คุกกี้ ลูกกวาด อาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต ผลิตภัณฑ์ จากเนื้อสัตว์ เนยเทียม เครื่องดื่ม เครื่องสำอางและยา 

- มาเลเซีย: เป็นตลาดสินค้าฮาลาลที่สำคัญอีกแห่ง และเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นชาว มุสลิมมากกว่า 60% และนิยมสินค้าฮาลาลของไทยมาก เนื่องจากอาหารไทยมีลักษณะคล้ายอาหาร พื้นเมืองของมาเลเซียและมีวัฒนธรรมการบริโภคที่คล้ายกัน ตลาดมาเลเซียจึงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ นอกเหนือจากตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในเรื่องต้นทุนการขนส่งที่ถูกกว่า ประกอบกับ สภาพภูมิประเทศของมาเลเซียไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตรจึงทำให้วัตถุดิบในการ
ผลิตอาหารฮาลาลไม่เพียงพอ อีกทั้งสินค้าอาหารไทยได้ประโยชน์จากภาษีนำเข้าที่มาเลเซียเรียกเก็บจากไทย ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนส่วนใหญ่อยู่ในอัตราร้อยละ 0 เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อให้ไทยมีโอกาส อีกมากในการขยายตลาดสินค้าอาหารไทยในมาเลเซีย

2. ประเทศที่ไม่ใช่ประเทศมุสลิมแต่เป็นตลาดใหญ่ส าหรับสินค้าฮาลาล ได้แก่

- ตลาดในเอเชีย ที่สำคัญได้แก่ ประเทศอินเดียซึ่งมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากถึง 140 ล้านคน และตลาดในประเทศจีน ที่ถึงแม้ว่าประชากรชาวมุสลิมในประเทศจีนคิดเป็นร้อยละ 2 หรือ 40 ล้านคนของ ประเทศ เท่านั้น แต่ด้วยจำนวนประชากรชาวจีนที่มีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆในโลก จึงทำให้จีนเป็นตลาด มุสลิมที่ขนาดใหญ่อีกแห่ง ซึ่งประชากรมุสลิมส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองซินเจียง หนิงเซี่ย และซีอัน สินค้า    ฮาลาลจึงเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะน้ำมันสำหรับประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์จากโกโก้และช็อกโกแลต อาหาร แช่แข็ง คุกกี้ ลูกกวาด อาหารทานเล่น เนยเทียมและเนยขาว (shortening) และเครื่องดื่ม

- ตลาดฮาลาลในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมูลค่าถึง 12,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 396,000 ล้านบาท) มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่กว่า 8 ล้านคน เชื่อว่าเป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูงมาก ประมาณว่า ในช่วงระยะปีค.ศ. 1995 – 2006 มูลค่าตลาดสินค้าฮาลาลเพิ่มขึ้นมากว่า 70%

- ตลาดฮาลาลในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงเช่นกันเพราะชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในยุโรปกว่า 10 ล้านคนมีรายได้สูง เช่น ประเทศฝรั่งเศสประเทศเดียวมีความต้องการสินค้าฮาลาลในแต่ละปี สูงกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 429,000 ล้านบาท) ส าหรับในรัสเซีย แม้ว่าจะมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ไม่มาก แต่มูลค่าการค้าในตลาดฮาลาล เพิ่มขึ้น 30-40 % ต่อปี ทั้งนี้ เนื่องมาจากประชากรส่วนใหญ่หันมาบริโภค อาหารมีประโยชน์ต่อสุขภาพและถูกสุขอนามัยมากขึ้น โดยสินค้าที่ต้องการของตลาดกลุ่มนี้คือ อาหาร สำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง อาหารทานเล่น คุกกี้และลูกกวาด เนยเทียม น้ำมันประกอบอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารฮาลาลจากเอเชีย

(อ่านต่อได้ที่ บทความเรื่อง "ตลาดฮาลาล โอกาสธุรกิจไทยสู่ตลาดโลก" คลิกที่นี่ )

     พบว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่ของโลกและเป็นที่แรกของโลกอีกเช่นกันที่มีการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับคุณภาพอาหารฮาลาลให้ถูกต้องตามหลัก (ศูนย์วิทยาศาสตร์ ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) นับเป็นตลาดที่น่าสนใจมิใช่น้อยนะผมว่า. . . .

     ความโดดเด่นที่น่าจับตามองของความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลใน อินโดนีเซียขณะนี้ คือ     ผู้บริโภคในอินโดนีเซีย หันมานิยมซื้อและ บริโภคอาหารแปรรูปที่บรรจุหีบห่อทันสมัย (Packaged Food) มากขึ้นเป็นลำดับ เพราะมีความสะดวกและปลอดภัย ซึ่งปัจจุบัน มูลค่าตลาดอยู่ที่ 7.6 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2560 จะ เพิ่มขึ้นเป็น 9 แสนล้านบาท โดยผู้เล่นรายสำคัญ เป็นบริษัท ท้องถิ่น ชื่อว่า Indofood Sukses Makmur ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ อาหารแปรรูปฯในหลายประเภท นอกจากนั้นชาวอินโดนีเซียมีความต้องการผลิตภัณฑ์ อาหารฮาลาลที่สอดรับกับกระแสนิยมที่มีความเฉพาะเจาะจง ซึ่งปัจจุบันกำลังนิยมผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นนวัตกรรมหรือ ความแปลกใหม่ และผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะด้าน ความสวยงามของร่างกาย อีกทั้ง “ราคา” ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อสินค้าอาหาร ฮาลาลของผู้บริโภคอินโดนีเซีย อย่างไรนั้นผู้บริโภคในกลุ่มชนชั้น กลางและสูง เน้นความมีคุณภาพของสินค้า เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ในการเลือกซื้อ และกลุ่มผู้บริโภคที่นับถือศาสนาอิสลาม มักจะ เลือกซื้อสินค้าอาหารที่มีเครื่องหมายรับรองฮาลาล ปรากฏอยู่ บนบรรจุภัณฑ์

ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์สินค้าอาหารฮาลาลที่แปลกใหม่ สวยงาม

1.  Tropicana Oil Lip Balm Gift Set ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากธรรมชาติเพื่อการดูแลริมฝีปาก

( ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tropicanaoil.com/th/)

2. ผักเม็ด BioVeggie

( ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.bioveggieproducts.com/)

3. ผลิตภัณฑ์ลูกเดือยอบกรอบ


4. Thanthara Thai Herbal Body Scrub ผลิตภัณฑ์ ขัดผิวกาย

 ( ข้อมูลเพิ่มเติม http://thanthara-thaiherbal.com)

5. Lum Lum Organic Thai Curry Pastes ผลิตภัณฑ์น้ำพริกแกงออร์แกนิก

( ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.chitaorganicfood.co.th/

6.  Thai Rich ขนมหวานแช่แข็ง
  
( ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.thairichfoods.com/)

บางทีแค่การติดยี่ห้อและสัญญาลักษณ์เข้าไปก็เป็นที่ดึงดูดใจและเพิ่มความน่าซื้อได้มากทีเดียว เช่น
ปลาทูมุสลิม


  


คือผมว่ามันช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภค(ผลิตตามหลักฮาลาล)  และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดหลากหลาย เช่น คำขวัญประจำสินค้า "ปลาทูมุสลิม ปลาทูนึ่งสูตรสมุนไพร เพื่อสุขภาพ" และอีกหลายอย่าง (ตามอ่านได้ในบทความที่ผมแนะนำไว้ด้านล่าง) จัดเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว เปลี่ยนสิ่งง่ายๆให้ขายได้ดีกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มไม่เพียงเท่านั้นแม้แต่ลูกค้าที่ไม่ได้เป็นอิสลามก็ยังศาสมารถซื้อไปลองชิมได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวเลยทีเดียว

(อ่านต่อได้ที่ วารสารของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พิมพ์เป็นปีที่ 57 ฉบับเดือนมีนาคม - เมษายน 2558)

ต่อไปเรามาเจาะลงอินโดนีเซียเลยดีกว่าว่ามีมูลค้าตลาดเท่าไหร่และสินค้าส่วนใหญ่ที่ผู้คนนิยมกันคืออะไร  มูลค่าค้าปลีกอาหารในตลาดฮาลาล : อินโดนีเซีย


ปี 2558 มูลค่าตลาด Package food = 291.7 ล้าน IDR

ปี 2558 มูลค่าตลาด Soft drinks 85,013.8 ล้าน IDR  


Indonesia Grocery Retailers Outlets by Channel : Units 2014


พบว่าอาหารจำพวกเครื่องดื่มนั้นมีมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มน้ำเปล่า และชา ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นร้านค้าทั่วไป รองลงมาคือร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่เติบโตสูงสุดและมีโอกาสเติมโตมากขึ้นไปอีกในอนาคต. . . .

( ที่มา http://thehalalfood.info)


ข้อมูลการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของประเทศไทยปี 2551 - 2555 
   
     จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลในแถบอาเซียนสูงถึง 33.6% และมีประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่เราทำการส่งออกสินค้าออกไปมาที่สุด โดยสินค้าอาหารส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นอาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ ซึ่งผู้บริโภคมุสลิมส่วนใหญ่สามารถบริโภคได้โดยไม่ขัดหลักศาสนา โดยมุสลิมในตะวันออกลางที่มักจะเข้มงวดเฉพาะอาหารฮาลาลที่ปรุงแต่งและมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เท่านั้น สินค้าส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ที่ส่งออกคือ ข้าว เนื่องจากประเทศมุสลิมส่วนใหญ่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ผลผลิตในประเทศส่วนใหญ่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค สำหรับสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าส่งออกรองจากข้าว ได้แก่ น้ำตาลทราย ทูน่ากระป๋อง แป้งมันสำปะหลัง และผลไม้สด (ลำไยสด ทุเรียน เงาะ มังคุด) จะเห็นได้ว่าสินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่ราวร้อยละ 80 เป็นอาหารฮาลาลโดยธรรมชาติซึ่งโดยปกติไม่ต้องผ่านกระบวนการรับรองฮาลาลหรือติดเครื่องหมายรับรองฮาลาล



สัดส่วนส่งออกและอัตราขยายตัวของสินค้าอาหารส่งออกหลักของไทยไปยังประเทศมุสลิมเฉลี่ยปี 2551-2555

( ที่มา http://thehalalfood.info)

     กำลังสนุกเลยแต่ผมว่าบทความมันเริ่มยาวเกินไปละ 555 ดังนั้นเอาไว้ต่อคราวหน้าดีกว่า สำหรับบทความนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผูกปมเพื่อมองหาช่องทางทำธุรกิจดีๆสักตัวในสภาวะที่เศรษฐกิจค่อนข้างลำบากเช่นนี้ โดยส่วนตัวผมเริ่มพอใจกับการหาข้อมูลต่างๆนี้นะ เพราะจะเห็นได้ว่าตั้งแต่บทความแรกคือ My view in economic of Thailand ลากยาวมาจนถึงบทความนี้ เราได้ค่อยๆมองเห็นภาพรวมใหญ่ของโลก และมองหาแหล่งที่คิดว่าเม็ดเงินน่าจะเคลื่อนที่ (ไหล) เข้าไปในภาคส่วนไหน ประเทศไหน พอได้แนวทางเราก็เจาะลึกลงไปจนตอนนี้เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ท้ายที่สุดนี้ผมหวังว่าผมจะคิดถูก. . . .


Kingveggie

I'm a Dreamer who try something new. Such as write this Blog. ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น