"ไม่มีปัญหาใดๆหรอกเพราะเรามองเห็นว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีการจับจ่ายมากขึ้นอีกทั้งยังหวังว่าเราจะถูกยกระดับให้เป็นกลุ่มทุนระดับ 1 (Tier-1 capital) ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่การกู้ยืมมากจะก่อให้เกิดหนี้เสีย (NPL) ที่ตามมามากเช่นกัน" Charles Chang, ผู้บริหารของ Asia credit strategy และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ the firm in Hong Kong กล่าว
China Zheshang Bank กล่าวว่าพวกเค้ามีกำไรจากการขายหุ้นในต่างประเทศถึง 15,000 ล้านหยวน ทำให้มีหลักทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดีจนถูกจัดอันดับในระดับที่ 1 (Tier-1 capital) ในขณะที่ Agricultural Bank of China ขายหลักทรัพย์ไป 8 หมื่นล้านหยวนรักษาระดับให้อยู่ใน Tier 2 เนื่องจากเกิดปัญหาหนี้เสียมาก (อ่านต่อคลิก)
มีการระดมทุนมากมายเพื่อรองรับการเติบโตของพวกเค้า เพราะพวกเค้าต้องการเงินทุนมารักษาระดับและชดเชยในส่วนของหนี้เสีย (They need more capital to support more purchases of bad loans) Liao Qiang นักวิเคราะห์ธนาคารที่ S&P สากลในกรุงปักกิ่งกล่าว
Cinda หนึ่งในบริษัทจัดการสินทรัพย์ได้ขายหุ้นบุริมสิทธิ 3 หมื่นล้านหยวน และในปี 2016 นี้ Chinese financial firms จะขาย "hybrid securities" 24,000 ล้านหุ้นหลังจากราคาล่วงลงไป 38% จากปีก่อน
จากรูปแสดงการแนะนำการเพิ่มทุนของประเทศจีนตามมาตฐานของ Basel III ในปี 2013 และ Bank of China เป็นรายแรกที่ขายหุ้นบุริมสิทธิในปี 2014 หากคำแนะนำให้ค่อยๆลดการเพิ่มทุนลงไปจริงๆผมว่าคงเป็นปัญหาแน่เพราะเท่าที่ดูหลายฝ่ายน่าจะพยายามเพิ่มทุนเพราะต้องการปล่อยกู้และรักษาระดับให้อยู่สูงๆต่อไป ถ้าเช่นนั้นแล้วอัตราเร่งของเงินเฟ้อคงตามมาในไม่ช้าเป็นแน่แท้
ที่มา http://www.bloomberg.com
ปล1. เอาจริงๆนะทุกท่านผมแปลไม่ได้เลย ศัพท์ยากมากไม่รู้เรื่องเลย 555 ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้วหากท่านที่เก่งรบกวนช่วยอ่านและหาจุดบกพร่องให้ผมด้วยจะขอขอบคุณมากครับ
ปล2. บทความนี้ผมจัดทำขึ้นเพื่อฝึกแปลภาษาและเพิ่มความสามารถทางภาษาอังกฤษของผม หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
ปล2. บทความนี้ผมจัดทำขึ้นเพื่อฝึกแปลภาษาและเพิ่มความสามารถทางภาษาอังกฤษของผม หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
การก่อหนี้เสียของจีนเกิดจากการใช้เงินในอนาคตมากเกินไปโดยไม่เกิดผลผลิต(productivity)จึงพยายามออกหุ้นเพิ่มทุนทั้งในและต่างประเทศมารักษาสภาพคล่องของหนี้เสีย
ตอบลบเข้าใจถูกไหมเนี่ยครับชี้แนะด้วยครับ
การก่อหนี้เสียของจีนเกิดจากการใช้เงินในอนาคตมากเกินไปโดยไม่เกิดผลผลิต(productivity)จึงพยายามออกหุ้นเพิ่มทุนทั้งในและต่างประเทศมารักษาสภาพคล่องของหนี้เสีย
ตอบลบเข้าใจถูกไหมเนี่ยครับชี้แนะด้วยครับ
ผมว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแหละครับ ตัวเลขหนี้สูงมาก และอย่างที่พูดการเติบโตของจีนนั้น โตไว้กว่า Productivity เป็นไปได้ว่าตัวเลขหนี้เสียจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต ความจริงต้องพูดกันยาวครับไว้ว่างๆผมจะเขียนบทความเรื่องหนี้เสียของจีนเพิ่มนะครับ ^^
ลบ