Always with Me

ปัญหาหนี้สูญในจีน

ธนาคารแห่งประเทศจีนได้ขายพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 4 หมื่นล้านหยวน หรือ 6 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐเนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ในประเทศ (อ่านต่อคลิก) ทำให้นักลงทุนทั้งหลายเริ่มสนใจและเข้าซื้อพันธบัตรนี้เก็บไว้ ธนาคารแห่งประเทศจีนมองเห็นถึงความไม่เสถียรของระบบที่มีการขยายตัวรวดเร็วเกินไป และมีการปล่อยกู้ที่หละหลวม โดยเฉพาะผู้ปล่อยกู้ขนาดกลางจนถึงเล็ก (the mid- and small-sized lenders) ทำให้มีการคุมเข้มมากขึ้นในเรื่องการปล่อยกู้ เพราะจากข้อมูลพบว่าตลอดช่วง 11 ปีที่ผ่านมาตัวเลขหนี้สูญของจีนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


     "ไม่มีปัญหาใดๆหรอกเพราะเรามองเห็นว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีการจับจ่ายมากขึ้นอีกทั้งยังหวังว่าเราจะถูกยกระดับให้เป็นกลุ่มทุนระดับ 1 (Tier-1 capital) ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่การกู้ยืมมากจะก่อให้เกิดหนี้เสีย (NPL) ที่ตามมามากเช่นกัน" Charles Chang, ผู้บริหารของ Asia credit strategy และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ the firm in Hong Kong กล่าว
     China Zheshang Bank กล่าวว่าพวกเค้ามีกำไรจากการขายหุ้นในต่างประเทศถึง 15,000 ล้านหยวน ทำให้มีหลักทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดีจนถูกจัดอันดับในระดับที่ 1 (Tier-1 capital) ในขณะที่ Agricultural Bank of China ขายหลักทรัพย์ไป 8 หมื่นล้านหยวนรักษาระดับให้อยู่ใน Tier 2 เนื่องจากเกิดปัญหาหนี้เสียมาก (อ่านต่อคลิก
     มีการระดมทุนมากมายเพื่อรองรับการเติบโตของพวกเค้า เพราะพวกเค้าต้องการเงินทุนมารักษาระดับและชดเชยในส่วนของหนี้เสีย (They need more capital to support more purchases of bad loans) Liao Qiang นักวิเคราะห์ธนาคารที่ S&P สากลในกรุงปักกิ่งกล่าว
     Cinda หนึ่งในบริษัทจัดการสินทรัพย์ได้ขายหุ้นบุริมสิทธิ 3 หมื่นล้านหยวน และในปี 2016 นี้ Chinese financial firms จะขาย "hybrid securities" 24,000 ล้านหุ้นหลังจากราคาล่วงลงไป 38% จากปีก่อน


จากรูปแสดงการแนะนำการเพิ่มทุนของประเทศจีนตามมาตฐานของ Basel III ในปี 2013 และ Bank of China เป็นรายแรกที่ขายหุ้นบุริมสิทธิในปี 2014  หากคำแนะนำให้ค่อยๆลดการเพิ่มทุนลงไปจริงๆผมว่าคงเป็นปัญหาแน่เพราะเท่าที่ดูหลายฝ่ายน่าจะพยายามเพิ่มทุนเพราะต้องการปล่อยกู้และรักษาระดับให้อยู่สูงๆต่อไป ถ้าเช่นนั้นแล้วอัตราเร่งของเงินเฟ้อคงตามมาในไม่ช้าเป็นแน่แท้

ที่มา http://www.bloomberg.com

ปล1. เอาจริงๆนะทุกท่านผมแปลไม่ได้เลย ศัพท์ยากมากไม่รู้เรื่องเลย 555 ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้วหากท่านที่เก่งรบกวนช่วยอ่านและหาจุดบกพร่องให้ผมด้วยจะขอขอบคุณมากครับ

ปล2. บทความนี้ผมจัดทำขึ้นเพื่อฝึกแปลภาษาและเพิ่มความสามารถทางภาษาอังกฤษของผม หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ 

Kingveggie

I'm a Dreamer who try something new. Such as write this Blog. ^^

3 ความคิดเห็น:

  1. การก่อหนี้เสียของจีนเกิดจากการใช้เงินในอนาคตมากเกินไปโดยไม่เกิดผลผลิต(productivity)จึงพยายามออกหุ้นเพิ่มทุนทั้งในและต่างประเทศมารักษาสภาพคล่องของหนี้เสีย
    เข้าใจถูกไหมเนี่ยครับชี้แนะด้วยครับ

    ตอบลบ
  2. การก่อหนี้เสียของจีนเกิดจากการใช้เงินในอนาคตมากเกินไปโดยไม่เกิดผลผลิต(productivity)จึงพยายามออกหุ้นเพิ่มทุนทั้งในและต่างประเทศมารักษาสภาพคล่องของหนี้เสีย
    เข้าใจถูกไหมเนี่ยครับชี้แนะด้วยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแหละครับ ตัวเลขหนี้สูงมาก และอย่างที่พูดการเติบโตของจีนนั้น โตไว้กว่า Productivity เป็นไปได้ว่าตัวเลขหนี้เสียจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต ความจริงต้องพูดกันยาวครับไว้ว่างๆผมจะเขียนบทความเรื่องหนี้เสียของจีนเพิ่มนะครับ ^^

      ลบ